TIS รับซื้อหุ้น MFEC จำนวน 106.39 ล้านหุ้น หรือ 24.1% ราคาหุ้นละ 5 บ.

MFEC  เผยได้รับคำเสนอซื้อหุ้น จาก TIS ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 106.39 ล้านหุ้น หรือ 24.1% ราคา 5 บ./หุ้น คิดเป็นมูลค่า 531.95 ลบ. เตรียมตั้งโต๊ะรับซื้อ 23 ก.ค.-28 ก.ย.นี้ คาดหากซื้อได้หมดจะหนุน TIS ถือหุ้นเพิ่มเป็น 49% ยันไม่แทรกแซงการบริหาร     

   นายศิริศักดิ์ ถิรวัฒนางกูร ประธานกรรมการบริษัท บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า ในวันที่ 21 ก.ค.63 บริษัทฯได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จาก บริษัท TIS Inc. (TIS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท จำนวนไม่เกิน 106,390,307 หุ้น หรือ 24.1%  ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ในราคา 5 บ./หุ้น

         โดยการรับซื้อหุ้น จะเป็นไปตามสัดส่วนเสนอขายหุ้นของผู้ขายแต่ละราย(Pro-Rata Basis) กล่าวคือ จำนวนหุ้นที่ซื้อจากผู้แสดงเจตนาขายแต่ละรายจะคำนวณตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นแต่ละราย ต่อจำนวนหุ้นที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นทั้งหมด

   ทั้งนี้ มีระยะเวลารับซื้อ 45 วัน ตั้งแต่ 23 ก.ค.63 -28 ก.ย.63 มีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ หรือ ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ สำหรับเงินทุนที่ TIS ใช้  จำนวนสูงสุดอยู่ที่ 531,951,535.00 บาท  มาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัท

   ทั้งนี้ TIS Inc. ถือหุ้นสำมัญในบริษัทอยู่แล้วจำนวน 109,921,999 หุ้น หรือคิดเป็น 24.90% ทั้งนี้หากมีผู้ถือหุ้น ตอบรับคำเสนอซื้อเต็มจำนวน จะทำให้  TIS Inc. ถือหุ้นสามัญ MFEC ทั้งหมด  216,312,306 หุ้น หรือ 49%

   วัตถุประสงค์ในการเสนอซื้อครั้งนี้ ทาง TIS Inc. เชื่อมั่นในศักยภาพในบริการด้าน IT Solution ของ MFEC เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ  และจะช่วยให้ MFEC ขยายธุรกิจ IT Solution ด้านธนาคาร และระบบชำระเงิน และการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยี โดยทาง TIS Inc. ยืนยันจะสนับสนุนผู้บริหารชุดเดิม แต่จะเสนอชื่อตัวแทนเข้าในกรรมการบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น

   ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 63 เมื่อวันที่ 27 เม.ย.63  ที่ประชุมได้มีมติยินยอมให้ทำคำเสนอซื้อดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 99.9982%

ลักษณะธุรกิจของ MFEC
พัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ภายใต้กลุ่มธุรกิจหลัก 4กลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งออกแบบการให้บริการในเชิงลึก เพื่อตอบสนองความต้องการจำเพาะในการใช้งานของลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย 1. Hybrid Infrastructure Services 2. Enterprise Solution 3. Digital Delivery 4. Transformation
efinancethai